3 ธันวาคม 2567

แคลอรี่ใน ปลาหมึกทอดกระเทียม มีกี่ Kcal

ปลาหมึกทอดกระเทียม

ปลาหมึกทอดกระเทียม คือเมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างวัตถุดิบหลักทั้งปลาหมึกและกระเทียมเข้าด้วยกันในรูปแบบที่ลงตัว โดยการเตรียมปลาหมึกสดมาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ เช่น กระเทียม พริกไทย และซอสถั่วเหลือง ส่วนปลาหมึกนั้นจะไปทอดในน้ำมันร้อนจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับกระเทียมสับที่โรยหน้าเมื่อทำเสร็จ ซึมซาบกลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทยทั่วทั้งจาน เมนูนี้เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชื่นชอบรสชาติเข้มข้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องการหาอะไรที่สะดวกรวดเร็วในการทำและรับประทาน ปลาหมึกทอดกระเทียมมีคุณประโยชน์จากปลาหมึกที่มีโปรตีนสูง ในขณะที่กระเทียมมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้การทานปลาหมึกทอดกระเทียมอาจทำให้ได้รับแคลอรี่ค่อนข้างสูงเนื่องจากการผ่านการทอดในน้ำมัน จึงแนะนำให้ทานในปริมาณที่พอเหมาะเท่าที่จำเป็น เพื่อสุขภาพที่ดีและการควบคุมน้ำหนัก

โดยเฉลี่ยปริมาณ ปลาหมึกทอดกระเทียม 1 ตัว (150 กรัม) ให้พลังงาน

= 340 KCAL

(หรือคิดเป็น 227 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 ตัวประกอบด้วยไขมัน 18 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 162 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 26% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
ปลาหมึกทอดกระเทียม

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
ปลาหมึก 40%
น้ำมันทอด 30%
เครื่องปรุง 20%
กระเทียม 5%
ผักประกอบ 3%
เครื่องเทศ 2%
จากการแบ่งส่วนละเอียดของปลาหมึกทอดกระเทียม พบว่าส่วนใหญ่ของแคลอรี่มาจากปลาหมึกซึ่งมีสัดส่วนสูงที่สุดถึง 40% รองมาคือแคลอรี่จากน้ำมันทอดที่ใช้ทำให้ปลาหมึกมีความกรอบ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้แคลอรี่สูงขึ้นถึง 30% นอกจากนี้เครื่องปรุงและกระเทียมก็มีผลทำให้แคลอรี่เพิ่มขึ้นตามลำดับ จึงแนะนำว่าผู้บริโภคควรพิจารณาในการเลือกใช้วัตถุดิบและปรุงแต่งรสชาติให้เหมาะสมเพื่อสุขภาพ

ปริมาณโซเดียมใน ปลาหมึกทอดกระเทียม

เฉลี่ยใน 1 ตัว
240 - 300
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ค่อนข้างสูง
ปลาหมึกทอดกระเทียม 1 ตัว (150 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 240-300 มิลลิกรัม
คิดเป็น 15-20% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"ปริมาณโซเดียมในปลาหมึกทอดกระเทียมที่ค่อนข้างสูงมีที่มาจากเครื่องปรุงซึ่งมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบสำคัญเช่น ซอสถั่วเหลืองและซอสปรุงรสอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีโซเดียมในเนื้อปลาหมึกเองที่เป็นธรรมชาติ การเลือกใช้ซอสน้ำต่ำโซเดียมหรือค่อยๆลดยอดการปรุงสามารถช่วยลดปริมาณโซเดียมได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน ปลาหมึกทอดกระเทียม

ในปลาหมึกทอดกระเทียม 1 ตัว มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินบี 12 2.4 ไมโครกรัม 100% ปลาหมึก
ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม 15% ปลาหมึก
แคลเซียม 32.0 มิลลิกรัม 4% ปลาหมึก
วิตามินซี 3.0 มิลลิกรัม 5% ผักประกอบ
โพแทสเซียม 200.0 มิลลิกรัม 6% ปลาหมึก
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินปลาหมึกทอดกระเทียม 1 ตัว ให้พลังงาน 340 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 1.1 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.6 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินปลาหมึกทอดกระเทียมให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกปลาหมึกที่สดใหม่ ควรเลือกปลาหมึกจากแหล่งที่เชื่อถือได้เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับสารกันบูดหรือสารเจือปนจากเนื้อปลาหมึกเก่าที่ผ่านกระบวนการพอร์ตรักษา
  2. ขอใช้น้ำมันน้อย เมื่อสั่งอาหาร ควรขอให้ทางร้านใช้น้ำมันให้น้อยที่สุดในการทอด เพื่อควบคุมแคลอรี่จากน้ำมันที่ใช้ทอด
  3. ขอปรุงรสแบบลดเกลือ ควรแจ้งว่าต้องการปรุงรสให้ลดเกลือลง เพื่อลดปริมาณโซเดียมในอาหาร
  4. งดน้ำจิ้มที่มีน้ำตาลสูง หลีกเลี่ยงการจิ้มซอสน้ำตาลสูงหรือซอสปรุงรสที่มีน้ำตาล ควรใช้ซอสที่มีน้ำตาลต่ำหรืองดทานคู่ซอสเลย
  5. เพิ่มผักด้านข้างจาน ขอเพิ่มผักสดหรือผักลวกประกอบในจาน ช่วยเพิ่มใยอาหารและลดปริมาณการทานปลาหมึกทอดที่มีแคลอรี่สูง
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. เลือกปลาหมึกที่สดใหม่ ควรเลือกปลาหมึกที่สดใหม่จากร้านที่มีแหล่งที่มาชัดเจน ลดการใช้ปลาหมึกแช่แข็งเพื่อคุณภาพที่ดีกว่า
  2. ใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ ใช้น้ำมันพืชที่มีไขมันต่ำ อย่างน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันคาโนล่า แทนน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันหมู
  3. อบแทนการทอด ใช้วิธีการอบในเตา หรือใช้หม้อทอดไร้น้ำมันแทนการทอด จะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่มาจากน้ำมันทอด
  4. ลดการใช้น้ำตาล ปรับลดน้ำตาลในเครื่องปรุง เช่น ซอสถั่วเหลืองหรือน้ํามะนาวแทนน้ําตาล เพิ่มกระเทียมและเครื่องเทศให้รสชาติเข้มข้นโดยไม่ต้องใช้น้ำตาล
  5. เพิ่มผักและเครื่องเคียงสุขภาพ เสิร์ฟคู่ผักสดหรือผักนึ่ง ช่วยเพิ่มไฟเบอร์และวิตามิน โดยช่วยลดปริมาณการทานปลาหมึกทอด
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ปลาหมึกทอดกระเทียมอาจเป็นเมนูที่อร่อยและน่าทาน แต่สำหรับผู้ที่แพ้อาหารทะเลโดยเฉพาะปลาหมึกควรระวัง เนื่องจากปลาหมึกมีโปรตีนที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น ผื่นขึ้นหรือลมหายใจติดขัด ผู้แพ้กระเทียมหรือกลูเตนในเครื่องปรุงก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน ควรตรวจสอบวัตถุดิบและเครื่องปรุงในอาหารให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมที่ตัวเองแพ้ หากมีอาการแพ้อาหารที่รุนแรง ควรหลีกเลี่ยงการทานปลาหมึกทอดกระเทียมอย่างเด็ดขาดและปรึกษาแพทย์ก่อนการทานอาหารทะเล
รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่จากการทานปลาหมึกทอดกระเทียมสามารถทำได้โดยการเลือกใช้น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพในการทอด เช่น น้ำมันมะกอกหรือคาโนลา นอกจากนั้นควรลดปริมาณน้ำมันที่ใช้ทอดลง และเน้นการใช้กระเทียม พริกไทย และเครื่องปรุงที่ไม่มีน้ำตาลในการปรุงรส รวมถึงเลือกปลาหมึกที่สดใหม่และมีเนื้อขาวเพื่อควบคุมปริมาณไขมันในอาหาร หากสามารถอบหรือย่างแทนการทอดจะช่วยลดแคลอรี่ได้อย่างมาก

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
60
%
ระดับปานกลาง
กินแล้วอยู่ท้องปานกลาง

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
30
คะแนน
ระดับค่า GI ต่ำ
น้ำตาลในเลือดเพิ่มช้าคงที่

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
20
คะแนน
มีใยอาหารต่ำ
หรือมีใยอาหารเล็กน้อย

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
150
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนปานกลาง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระวัง

เป็นโรคเบาหวาน กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ปลาหมึกทอดกระเทียมอาจมีแคลอรี่และไขมันสูงจากการทอดในน้ำมัน อีกทั้งซอสและเครื่องปรุงอาจมีน้ำตาลและโซเดียม ควรระวังในการบริโภค ไม่ควรกินในปริมาณมากและเลือกปรุงรสที่ลดการใช้น้ำตาลและเกลือ และหาวิธีที่ช่วยลดแคลอรี่ที่จะได้รับเพื่อลดความเสี่ยงต่อการคุมเบาหวานไม่อยู่และเพิ่มความอ้วน

เป็นโรคไต กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

สำหรับผู้ป่วยโรคไต การบริโภคปลาหมึกทอดกระเทียมอาจมีผลกระทบต่อการทำงานของไต เนื่องจากมีโซเดียมและโพแทสเซียมสูงจากปลาหมึกและซอสที่ใช้ ควรระมัดระวังในการเลือกประเภทซอสและเครื่องปรุง และควรปรับปริมาณบริโภคปลาหมึกให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายโดยเฉพาะหากมีปัญหาเรื่องการขับโซเดียมหรือโพแทสเซียมออกจากร่างกาย

เป็นโรคหัวใจ กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

ปลาหมึกทอดกระเทียมมีไขมันและโซเดียมสูง ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจควรระวังในการบริโภค การบริโภคอาหารที่ไขมันสูงจากการทอดก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด การเลือกใช้น้ำมันที่ดีหรือทำการอบแทนการทอดจะช่วยลดไขมันในอาหารได้ คำนึงถึงปริมาณบริโภคที่เหมาะสมและเลือกซอสที่โซเดียมต่ำจะช่วยลดความเสี่ยงได้

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงควรระมัดระวังการบริโภคปลาหมึกทอดกระเทียม ซึ่งมีปริมาณโซเดียมในซอสและเครื่องปรุงที่สูง อาจส่งผลให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ควรคำนึงถึงการปรับลดเกลือในสูตรและรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการปรุงรสที่ใช้เกลือหรือซอสที่มีโซเดียมสูง และเลือกอาหารประเภทที่ส่งเสริมสุขภาพหลอดเลือดหัวใจ

เป็นโรคเก๊าท์ กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ต้องระมัดระวังการบริโภคปลาหมึกทอดกระเทียม เนื่องจากปลาหมึกมีสารพิวรีนที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการของเก๊าท์ ควรบริโภคในปริมาณที่น้อยและเลือกรับประทานอาหารที่ลดปัญหาการสะสมของพิวรีน หากมีอาการควรปรึกษาแพทย์และลดโปรตีนจากอาหารทะเลโดยเลือกใช้โปรตีนจากแหล่งที่มีพิวรีนต่ำเพื่อสุขภาพข้อที่ดี

เป็นโรคกระเพราะ กินปลาหมึกทอดกระเทียมได้ไหม?

ผู้ป่วยโรคกระเพาะสามารถทานปลาหมึกทอดกระเทียมได้ แต่อาจต้องระมัดระวังในการเลือกใช้เครื่องปรุงที่ไม่ส่งเสริมการระคายเคืองกระเพาะ เช่น น้ำตาลเกลือหรือเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันที่เคยผ่านการทอดแล้ว ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมและคำนึงถึงการเลือกประเภทอาหารที่ลดโอกาสที่จะกระตุ้นอาหารโรคกระเพาะ

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน