4 ธันวาคม 2567

แคลอรี่ใน แกงคั่วหมู มีกี่ Kcal

แกงคั่วหมู

แกงคั่วหมู คือเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติกลมกล่อมและเผ็ดพอดี เมนูนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความหวานของมะพร้าวและเนื้อหมูที่นุ่มลิ้นทำให้เมนูนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบอาหารไทย การทำแกงคั่วหมูจะใช้พริกแกงที่ผ่านการดัดแปลงให้มีรสที่พอดีกับความเผ็ดที่ต้องการ ใส่เนื้อหมูที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเคี่ยวไปกับกะทิให้เข้ากัน นอกจากนี้ยังเสริมด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรสชาติกลมกลืนของอาหาร แต่ละชามจะมีความหอมของเครื่องเทศเข้ากับความมันของกะทิที่ทำให้อาหารนี้ดูน่าทานมากขึ้น ความหลากหลายในการปรุงแต่งแกงคั่วหมูยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามวัตถุดิบหรือเครื่องเทศที่ใช้ ทำให้แต่ละจานมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำกัน ต่อจากนี้จะต้องคำนึงถึงการควบคุมปริมาณเครื่องปรุงที่ใส่ลงไปเพื่อให้ได้รสที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับการบริโภคเพื่อลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับจากการทาน

โดยเฉลี่ยปริมาณ แกงคั่วหมู 1 จาน (250 กรัม) ให้พลังงาน

= 400 KCAL

(หรือคิดเป็น 160 Kcal ต่อปริมาณ 100 กรัม)
ใน 1 จานประกอบด้วยไขมัน 25 g.
⋅ พลังงานจากไขมัน = 225 กิโลแคลอรี่
⋅ เฉพาะไขมันคิดเป็น 36% ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
แกงคั่วหมู

สัดส่วนสารอาหารหลัก

(สัดส่วนของสารอาหารที่ให้พลังงานกับร่างกาย)

แหล่งที่มาของแคลอรี่

(แบ่งสัดส่วนของ Kcal ที่ได้รับจากวัตถุดิบในอาหาร)
กะทิ 40%
เนื้อหมู 30%
พริกแกง 15%
น้ำมัน 10%
น้ำตาล 5%
การแบ่งแคลอรี่ในแกงคั่วหมูส่วนใหญ่จะมาจากกะทิซึ่งมีไขมันสูง เมนูนี้ยังมีเนื้อหมูซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานพอควร พริกแกงและน้ำมันก็เพิ่มแคลอรี่เช่นกัน หากควบคุมปริมาณส่วนประกอบเหล่านี้การรับแคลอรี่จะลดลง

ปริมาณโซเดียมใน แกงคั่วหมู

เฉลี่ยใน 1 จาน
300 - 500
(มิลลิกรัม)
จัดอยู่ในกลุ่มอาหารที่โซเดียม ปานกลาง
แกงคั่วหมู 1 จาน (250 กรัม)
มีโซเดียมประมาณ 300-500 มิลลิกรัม
คิดเป็น 10-15% ของปริมาณโซเดียมที่แนะนำต่อวัน
"แกงคั่วหมูมีโซเดียมระดับกลางเนื่องจากการใช้เครื่องปรุงรสและพริกแกงที่มีส่วนประกอบเกลือ ควรคำนึงถึงการบริโภคโซเดียมในวันนั้นเพื่อไม่ให้เกินจากที่แนะนำ"
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวัน

วิตามิน/เกลือแร่ที่พบได้ใน แกงคั่วหมู

ในแกงคั่วหมู 1 จาน มีสารอาหารประเภทวิตามินและเกลือแร่ที่พบบ่อยดังนี้
วิตามิน/เกลือแร่ ปริมาณใน 1 จาน %RDI ต่อวัน ได้รับจาก
วิตามินซี 50.0 มิลลิกรัม 55% ผักที่เพิ่ม
ธาตุเหล็ก 2.5 มิลลิกรัม 25% เนื้อหมู
วิตามินเอ 800.0 ไมโครกรัม 90% พริกแกง
แคลเซียม 200.0 มิลลิกรัม 20% กะทิ
โพแทสเซียม 550.0 มิลลิกรัม 15% ผักที่เพิ่ม
% RDI ต่อวัน หมายถึง สัดส่วนของสารอาหาร ที่ได้รับจากอาหาร เทียบกับปริมาณที่ร่างกายต้องการในหนึ่งวัน

กินแกงคั่วหมู 1 จาน ให้พลังงาน 400 แคลอรี่ ต้องเบิร์นแค่ไหน?

เดินเร็ว

ใช้เวลา 1.3 ชั่วโมง

วิ่งจ๊อกกิ้ง

ใช้เวลา 0.7 ชั่วโมง

ว่ายน้ำ

ใช้เวลา 0.8 ชั่วโมง

ปั่นจักรยาน

ใช้เวลา 0.8 ชั่วโมง

ควรเลือกกิจกรรมที่เหมาะสม และเพิ่มความต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การเผาผลาญมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินแกงคั่วหมูให้ได้พลังงานน้อยที่สุด

สำหรับผู้ที่ต้องการกินเพื่อสุขภาพ ลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร
กินที่ร้าน/ซื้อใส่ถุง
  1. เลือกเมนู เลือกเมนูแกงคั่วที่มีผักเพิ่มหรือเลือกเฉพาะแกงที่ไม่ใช้กะทิ
  2. ลดปริมาณข้าว รับประทานพร้อมข้าวในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรต
  3. เพิ่มผักสด หากมีตัวเลือกให้เพิ่มผักสด เช่น กะหล่ำปลีหรือแตงกวา
  4. ใช้ข้าวสีน้อย เลือกข้าวที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำเช่นข้าวกล้อง
  5. ดื่มน้ำก่อนทาน เพื่อควบคุมความหิวและทำให้รู้สึกอิ่มเร็วยิ่งขึ้น
ทำกินเอง/ปรุงเอง
  1. ใช้กะทิน้อยลง ลดปริมาณการใช้กะทิเพื่อลดปริมาณไขมัน
  2. เลือกเนื้อหมูมันน้อย ใช้เนื้อส่วนมันน้อยเพื่อลดปริมาณไขมัน
  3. เพิ่มปริมาณผัก ใส่ผักหลากหลายชนิดเพื่อเพิ่มไฟเบอร์และวิตามิน
  4. ใช้พันธุ์พริกที่ไม่เผ็ดมาก ลดการใช้พริกช่วยลดแคลอรี่จากน้ำมันที่ผัดพริกแกง
  5. เลือกใช้น้ำมันพืชที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันรำข้าว
ข้อควรระวังและอาการแพ้อาหาร: ผู้ที่มีประวัติการแพ้อาหารควรใส่ใจวัตถุดิบที่ใช้ในแกงคั่วหมูซึ่งอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น กะทิ ซึ่งอาจทำให้บางคนที่มีความไวต่อไขมันสูงส่วนผสมอื่นที่ต้องคำนึงคือพริกแกงซึ่งอาจมีส่วนประกอบที่เกิดอาการแพ้ในบางคน เนื้อหมูที่ใช้ควรตรวจสอบว่ามีการปรุงที่สะอาดถูกสุขลักษณะเพื่อลดความเสี่ยงจากการรับประทานอาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกหรือมีสิ่งแปลกปลอม นอกจากนี้ผู้ที่แพ้เครื่องเทศหรือสมุนไพรควรสอบถามร้านค้าหรือผู้ปรุงว่ามีการผสมเครื่องเทศอื่นๆ ที่ตนเองแพ้หรือไม่
รู้หรือไม่? การลดแคลอรี่จากแกงคั่วหมูสามารถทำได้โดยการลดปริมาณกะทิและเนื้อหมูที่ใช้ และใช้สมุนไพรหรือเครื่องเทศเพื่อเพิ่มรสชาติแทนการใช้เกลือและน้ำตาล นอกจากนี้ควรเลือกใช้เนื้อหมูที่มีไขมันน้อยหรือปราศจากมันเพื่อลดปริมาณไขมันในอาหาร รวมถึงการเพิ่มปริมาณผักเพื่อสร้างความอิ่มและเพิ่มไฟเบอร์ในอาหาร การเลือกบริโภคแกงคั่วหมูเป็นบางครั้งและในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ที่ได้รับต่อวัน

ค่าความอิ่ม

(Satiety Index)
70
%
ระดับสูง
กินแล้วอยู่ท้องนาน

ดัชนีน้ำตาล

(Glycemic Index)
55
คะแนน
ระดับค่า GI ปานกลาง
น้ำตาลในเลือดเพิ่มปานกลาง

เส้นใยอาหาร

(Dietary Fiber)
60
คะแนน
มีใยอาหารปานกลาง
หรือมีใยอาหารพอสมควร

ค่าพิวรีน

(Purine Content)
150
mg. ต่อ 100 กรัม
มีพิวรีนสูง
ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรหลีกเลี่ยง

เป็นโรคเบาหวาน กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

แกงคั่วหมูมีพลังงานสูง และอาจมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่ต้องควบคุม การเลือกทานในปริมาณที่เหมาะสมและควบคู่กับการคำนึงถึงระดับน้ำตาลในเลือดและการกินอื่นๆจะช่วยรักษาสมดุลอาหารในผู้ป่วยเบาหวาน

เป็นโรคไต กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

แกงคั่วหมูมีโซเดียมระดับกลางซึ่งส่งผลต่อความดันโลหิตและการทำงานของไต ผู้ที่มีโรคไตควรระวังเรื่องการบริโภคโซเดียมในเมนูนี้ นอกจากนี้โปรตีนนับเป็นส่วนประกอบหลักของเมนูนี้ ควรคำนึงถึงการบริโภคโปรตีนในแต่ละวัน

เป็นโรคหัวใจ กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

การบริโภคแกงคั่วหมูควรคำนึงถึงปริมาณไขมันอิ่มตัวและสารกะทิ ซึ่งอาจมีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในเลือด หากบริโภคในปริมาณมากอาจส่งผลต่อสุขภาพหัวใจในระยะยาว

เป็นโรคความดันโลหิตสูง กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

ความเข้มข้นของโซเดียมในแกงคั่วหมูถือว่าอยู่ในระดับกลาง ผู้ที่เป็นโรคควรระวังปริมาณโซเดียมต่อวัน การบริโภคเกินอาจจะส่งผลต่อความดันโลหิตที่สูงขึ้น

เป็นโรคเก๊าท์ กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

เมนูนี้มีปริมาณพิวรีนที่อาจกระตุ้นอาการโรคเก๊าท์ได้ หากบริโภคในปริมาณมากหรือบ่อยครั้ง ควรลดการบริโภคเนื้อสัตว์และเพิ่มผักในมื้ออาหารแทน

เป็นโรคกระเพราะ กินแกงคั่วหมูได้ไหม?

แกงคั่วหมูอาจมีไขมันและเครื่องเทศที่กระตุ้นอาการโรคกระเพาะ ควรควบคุมขนาดแต่ละคำที่รับประทาน และเลือกทานในปริมาณที่น้อยเพื่อป้องกันการกระตุ้นอาการไม่สบายในทางเดินอาหาร

ข้อมูลอาจมีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบการปรุง และวัตถุดิบในการประกอบอาหาร รวมไปถึงปริมาณเฉลี่ยตามขนาดภาชนะในการจัดเตรียม
Thai RDI: ความต้องการพลังงานสำหรับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป มีความต้องการพลังงานเฉลี่ยวันละ 2,000 กิโลแคลอรี่
เพศชาย ต้องการพลังงานมากกว่า เพศหญิง เนื่องจากเพศชายมักมีมวลกล้ามเนื้อและขนาดร่างกายที่ใหญ่กว่า ซึ่งทำให้ร่างกายต้องการพลังงานมากกว่า
การเรียกหน่วย แคลอรี่ kcal หรือ cal หรือ กิโลแคลอรี่ เพื่อใช้บอกพลังงานในอาหาร ในบริบทของการใช้จริง ให้นิยามได้ว่าเป็นหน่วยความหมายเท่ากัน